วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เด็กมอ เด็กวัด


โครงงาน
 เด็กมอ เด็กวัด


ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
เนื่องจากในปัจจุบัน โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากยิ่งขึ้น ทำให้มนุษย์มีค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไป และโดยในสมัยของเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นมาใน ยุคไอทีนี้ ก็ได้ห่างหายจากการทำบุญ เข้าวัด ฟังธรรม และการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมาก สาเหตุหลักของปัญหานี้อาจเนื่องมาจากการมี วัฒนธรรมใหม่ๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาในสังคมไทย จำทำให้ เด็ก นักเรียน นิสิต ในยุคสมัยใหม่นี้ หลงลืมวัฒนธรรมอันดีของไทย และหลงลืมการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ในเวลาว่างจากการศึกษาเล่าเรียนส่วนมาก นักเรียน นิสิต นักศึกษาจะใช้เวลาว่างไปกับการเล่นเกมส์ เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนัง ฟังเพลง เสียมากกว่า การเข้าวัด ฟังธรรม หรือการทำสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่ง ณปัจจุบันนี้เด็กไทยได้เสื่อมโทรมทางด้านจิตอาสาเป็นอย่างมาก
 พวกเราคณะผู้จัดทำจึงมีความคิดว่า เราอาจจะห่างหายจากการทำบุญเข้าวัด กันมากเกินไป จึงได้ช่วยกันคิดริเริ่มจัดทำโครงงาน เด็กมอ เด็กวัด นี้ขึ้นมาเพื่อที่ทำให้ พวกเราได้ใช้เวลาว่างจากการศึกษาเล่าเรียนให้เกิดประโยชน์และเพื่อที่จะเป็นการโน้มน้าวใจหรือเป็นแรงจูงใจให้แก่เหล่าบรรดา นักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้หันหน้าเข้าวัด และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการทำสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม เหตุที่พวกเราเลือกบำเพ็ญประโยชน์ที่วัด เนื่องด้วย  วัด นั้นเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจของชาวพุทธ และวัดนั้นถือเป็นโบราณวัตถุที่มีคุณค่า และควรอนุรักษ์ไวในสังคมไทยของเราเพื่อให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไปได้เห็นและรู้ซึ่งถึงคุณค่าของ วัด และเนื่องด้วยคณะผู้ขัดทำได้เห็นว่าในบริเวณรอบๆรั้วของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีศาสนสถานหลายแห่ง พวกเราคณะผู้จัดทำจึงเลือกที่จะบำเพ็ญประโยชน์ที่วัด เพราะวัดเป็นศาสนสถานเป็นสถาบันศาสนาที่สำคัญ  สถาบันทางศาสนานั้นต้องเป็นผู้นำในการสร้างจิตสาธารณะให้เกิดขึ้น ต้องนำประชาชนกลับไปสู่คำสอนของพระพุทธองค์ที่ทรงเน้นให้เห็นแก่ประโยชน์สุขของสังคมเป็นใหญ่ ไม่บริโภคเกินความจำเป็น หรือ เพราะความอยาก มีความสันโดษ พอใจที่จะมีกินมีอยู่ มีใช้เท่าที่จำเป็นรู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เจือจานแก่ผู้อื่น มีความเมตตาอาทรต่อกัน เห็นแก่ผู้อื่นเสมือนเห็นแก่ตนเองรู้จักหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
              สถาบันทางศาสนาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสถาบันที่ได้รับการเคารพบูชาแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบัน เป็นสถาบันที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อจิตใจของประชาชน เพราะต่างได้ยึดถือสถาบันนี้เป็นที่พึ่งทางใจมาอย่างเนิ่นนาน ฉะนั้น สถาบันทางศาสนาจึงอยู่ในฐานะที่จะช่วยสร้างสรรค์และพัฒนาจิตใจของคนในสังคมให้หันเข้ามาอยู่ความถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และวิธีการพัฒนาจิตสำนึกให้เกิดขึ้นได้อย่างดีที่สุด ก็คือการสอนด้วยตัวเอง อันหมายถึง การที่ผู้อยู่ในสถาบัน องค์การทางศาสนา พึงต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างแก่คนในสังคมในด้านการช่วยเหลือส่วนรวม และทำให้ได้มีโอกาสที่จะเข้าวัด ทำบุญ ทำประโยชน์ให้วัดได้หลายอย่าง
       นอกจากจะเป็นการที่ทำให้เกิดการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีอีกด้วย พวกเราจึงอยากจะเป็นตัวอย่างให้แก่ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้มีการสร้างจิตสำนึกและมีจิตอาสา เป็นบุคคลที่เจริญทางปัญญา และมีคุณธรรมอีกด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น